วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 3560
วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2561
ขั้นตอนในการออกแบบ CAI
ขั้นตอนในการออกแบบ CAI
ขั้นตอนการออกแบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมี 7 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: ขั้นตอนการเตรียม (Preparation)
ขั้นตอนนี้เป็นการเตรียมพร้อมก่อนที่จะทำการออกแบบบทเรียน ขั้นตอนนี้ผู้ออกแบบจะต้องเตรียมพร้อมในเรื่องของความชัดเจนในการกำหนดเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ การรวบรวมข้อมูล การเรียนรู้เนื้อหา เพื่อให้เกิดการสร้างหรือระดมความคิดในที่สุด ขั้นตอนการเตรียมนี้ถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากตอนหนึ่งที่ผู้ออกแบบต้องใช้เวลาให้มาก เพราะการเตรียมพร้อมในส่วนนี้ จะทำให้ตอนต่อไปในการออกแบบเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนที่ 2: ขั้นตอนการออกแบบบทเรียน (Design Instruction)
เป็นขั้นตอนที่ครอบคลุมถึงการทอนความคิด การวิเคราะห์งาน แนวคิดการออกแบบขั้นแรก การประเมินและแก้ไขการออกแบบ ขั้นตอนการออกแบบบทเรียนนี้ เป็นขั้นตอนที่กำหนดว่า บทเรียนจะออกมาในลักษณะใด
ขั้นตอนที่ 3: ขั้นตอนการเขียนผังงาน (Flowchart Lesson)
ผังงานคือ ชุดของสัญลักษณ์ต่าง ๆ ซึ่งอธิบายขั้นตอนการทำงานของโปรแกรม การเขียนผังงานเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้ก็เพราะคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ดี จะต้องมีปฏิสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ และสามารถถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างชัดเจนที่สุดในรูปของสัญลักษณ์ การเขียนผังงานจะนำเสนอลำดับขั้นตอน โครงสร้างของบทเรียน ผังงานทำหน้าที่เสนอข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรม เช่น อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เรียนตอบคำถามผิด เป็นต้น
ขั้นตอนที่ 4: ขั้นตอนการสร้างสตอรี่บอร์ด (Create Storyboard)
การสร้างสตอรี่บอร์ด เป็นขั้นตอนของการเตรียมการนำเสนอข้อความ ภาพ รวมทั้งสื่อในรูปแบบมัลติมีเดียต่าง ๆ ลงบนกระดาษ เพื่อให้การนำเสนอเป็นไปอย่างเหมาะสมบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ สตอรี่บอร์ดนำเสนอเนื้อหา และลักษณะของการนำเสนอขั้นตอนการสร้างสตอรี่บอร์ด รวมไปถึงการเขียน สคริปต์ ที่ผู้เรียนจะได้เห็นบนหน้าจอ ซึ่งได้แก่ เนื้อหา คำถาม ผลป้อนกลับ และภาพเคลื่อนไหว เป็นต้น ในขั้นนี้ควรที่จะมีการประเมินผล และทบทวน แก้ไข บทเรียนจากสตอรี่บอร์ดนี้ จนกระทั่งผู้ร่วมทีมพอใจกับคุณภาพของบทเรียน
ขั้นตอนที่ 5: ขั้นตอนการสร้าง / เขียนโปรแกรม (Program Lesson)
เป็นกระบวนการเปลี่ยนสตอรี่บอร์ดให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ช่วยสอน การเขียนโปรแกรมนั้นหมายถึง การใช้โปรแกรมช่วยสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในการสร้างบทเรียน เช่น Multimedia ToolBook ในขั้นตอนนี้ผู้ออกแบบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน จะต้องรู้จักเลือกใช้โปรแกรมนี้ ผู้ใช้สามารถได้มาซึ่งงานที่ตรงกับความต้องการและลดเวลาในการสร้างได้ส่วนหนึ่ง
ขั้นตอนที่ 6: ขั้นตอนการผลิตเอกสารประกอบการเรียน (Produce Supporting Materials)
เอกสารประกอบการเรียนเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เอกสารประกอบการเรียนอาจแบ่งได้เป็น 4 ประเภท คือ คู่มือการใช้ของผู้เรียน คู่มือการใช้ของผู้สอน คู่มือสำหรับการแก้ปัญหาเทคนิคต่าง ๆ และเอกสารประกอบเพิ่มเติมทั่ว ๆ ไป ผู้เรียนและผู้สอนมีความต้องการแตกต่างกันไป ดังนั้น คู่มือสำหรับผู้เรียน และผู้สอนจึงไม่เหมือนกัน
ขั้นตอนที่ 7: ขั้นตอนการประเมินและแก้ไขบทเรียน (Evaluation and Revise)
ในช่วงสุดท้าย บทเรียนและเอกสารประกอบทั้งหมด ควรที่จะได้รับการประเมิน โดยเฉพาะการประเมิน ในส่วนของการนำเสนอและการทำงานของบทเรียน ในส่วนของการนำเสนอนั้น ผู้ที่ควรจะทำการประเมินก็คือ ผู้ที่มีประสบการณ์ในการออกแบบมาก่อน ในการประเมินการทำงานของผู้ออกแบบ ควรที่จะทำการสังเกต พฤติกรรมของผู้เรียน ในขณะที่ใช้บทเรียนหรือสัมภาษณ์ผู้เรียนหลังการใช้บทเรียน
Using analysis corpus software to analyze specialized texts
Using analysis corpus software to analyze specialized texts
1. What is corpus?
A corpus (sometimes used in the plural form ‘corpora’) can be generally defined as ………. ‘A collection of naturally-occurring texts in a computer-readable format which can be retrieved and analyzed using corpus analysis software’ (Kennedy,1998; McEnery & Wilson, 2001; O’Keeffe,A., McCarthy, M., & Carter, R. ,2007; Tuebert & Cermakova, 2007)
Sources of language corpora
· Subscribe to a large corpus provider such as the British National Corpus (BNC).
· Use web concordancing.
· Compile own corpora and analyze data using analysis software
§ Antconc (for monolingual corpus)
§ Wordsmith (for monolingual corpus)
§ Paraconc (for multilingual corpus)
Designing a specialized corpus (based on Bowker and Pearson 2002)
· Corpus size
§ There are no fixed rules; depending on research purposes, availability of data and time.
· Text extracts vs. full text
§ Depends on the aim of corpus compilation.
· Number of texts
§ Depends on your research focus.
· Medium
§ Can be spoken or written texts or mixed, it depends on research questions.
· Subject and text type
§ Should mainly focus on the specialized text under investigation.
§ Text type within a specialized subject field may vary from technical to popular texts.
· Other considerations
§ Authorship: Texts written by experts in a field tend to presentmore reliable.
§ Language: Specialized texts can be stored and retrieved in the form of monolingual, comparable, or parallel corpora.
Sources of specialized texts
· Printed materials software
· Word document texts
· CD-ROMs
· Texts on the web
· Online database
Getting started with Antconc
· Download the latest version of Antconc.
· Creating a specialized corpus profile (adapted from Bowker and Pearson 2002:72)
A sample profile
Size
|
56,812 words
|
Source of corpus data
|
From the internet (www.voanews.com)
|
Number of texts
|
70 texts
|
Medium
|
written
|
Subject
|
News about South Korea
|
Text types
|
News article
|
Authorship
|
Journalist
|
Language
|
Texts written in English mostly by native speaker
|
publication
|
Recent text (retrieved in September 2017)
|
· Doing small-scaled research on your own specialized corpora.
Using corpora to do research in ESP
§ To identify frequent words or clusters in a specialized corpus.
§ To identify key words in a specialized corpus in comparison with a general corpus for syllabus design, materials development, or terminological studies.
§ To examine language patterning and phraseology of words in a specialized text.
§ To examine meaning of specialized vocabulary.
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI)
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) คืออะไร?
CAI ย่อมาจากคำว่า COMPUTER-ASSISTED-INSTUCTION
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) หมายถึง สื่อการเรียนการสอนทางคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการนำเสนอสื่อประสมอันได้แก่ ข้อความ ภาพนิ่ง กราฟฟิก วิดีทัศน์ ภาพเคลื่อนไหว และ เสียง เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาบทเรียยน หรือองค์ความรู้ในลักษณะที่ใกล้เคียงกับการสอนจริงในห้องเรียนมากที่สุด
โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือ สามารถดึงดูดความสนใจของผู้เรียน และกระตุ้นให้เกิดความต้องการที่จะเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นตัวอย่างที่ดีของสื่อการศึกษาในสักษณะตัวต่อตัว ซึ่งผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์ หรือการได้ตอบพร้อมทั้งการได้รับผลป้อนกลับ (FEEDBACK) นอกจากนี้ยังเป็นสื่อที่สามารถตอบสนองความแตกต่างระหว่างผู้เรียนได้อย่างดี รวมทั้งสามารถที่จำประเมินและตรวจสอบความเข้าใจของผู้เรียนได้ตลอดเวลา
ประเภทของ CAI
จุดประสงค์ของ CAI ก็เพื่อเป็นสื่อช่วยสอนใช้สอนเสริมจากการสอนในชั้นเรียนปกติ หรือให้ผู้เรียนใช้ค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง การออกแบบ CAI จึงมีความแตกต่างกันไป โดยทั่วไปจะผลิต CAI เพื่อการเรียนการสอนในรูปแบบต่างๆ ได้ดังนี้
1. การสอน (Tutorial Instruction) เป็นโปรแกรมที่เสนอเนื้อหาความรู้เป็นเนื้อหาย่อยๆ แก่ผู้เรียนในรูปแบบของข้อความ ภาพ เสียง หรือทุกรูปแบบรวมกัน แล้วให้ผู้เรียนตอบคำถาม เมื่อผู้เรียนให้คำตอบแล้ว คำตอบนั้นจะได้รับการวิเคราะห์เพื่อให้ข้อมูลป้อนกลับทันที แต่ถ้าผู้เรียนตอบคำถามนั้นซ้ำและยังผิดอีก ก็จะมีการให้เนื้อหาเพื่อทบทวนใหม่จนกว่าผู้เรียนจะตอบถูก
2. การฝึกหัด (Drills and Practice) เป็นโปรแกรมฝึกหัดที่ไม่มีการเสนอเนื้อหาความรู้แก่ผู้เรียนก่อน แต่จะมีการให้คำถาม หรือ ปัญหาที่ได้คัดเลือกจากการสุ่ม หรือออกแบบมาโดยเฉพาะ โดยการนำเสนอคำถาม หรือ ปัญหานั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อให้ผู้เรียนตอบแล้วมีการให้คำอบที่ถูกต้อง เพื่อตรวจสอบยืนยันแก้ไข และพร้อมกับให้คำถามหรือปัญหาต่อไปอีก จนกว่าผู้เรียนจะตอบคำถามจนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
3. การจำลอง (Simulation) เป็นโปรแกรมที่จำลองความเป็นจริง โดยตัดรายละเอียดต่างๆ หรือนำกิจกรรมที่ใกล้เคียงความเป็นจริงมาให้ผู้เรียนได้ศึกษา เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พบเห็นภาพจำลองเหตุการณ์เพื่อฝึกทักษะ และเรียนรู้ได้โดยไม่ต้องเสี่ยงภัย หรือจ่ายค่าใช้จ่ายมากนะ
4.เกมเพื่อการสอน (Instructional Games) เป็นสื่อการสอนี่เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่กระตุ้นผู้เรียนให้เกิดความอยากรู้ได้โดยง่าย เพิ่มบรรยากาศการเรียนรู้ให้ดียิ่งขึ้น และช่วยไม่ให้ผู้เรียนเกิดอาการเหม่อลอย ฝันกลางวัน เพราะผู้เรียนต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
5. การค้นพบ (Discovery) เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเองให้มากที่สุดจากการเสนอปัญหา ให้ผู้เรียนลองผิดลองถูก
ข้อดี – ข้อจำกัดของ CAI
ข้อดี
1. ช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ อันจะทำให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียน
2. ผู้เรียนสามารถเรียนได้ตามความสามารถของตนเอง อันเป็นการสนองตอบต่อผู้เรียนแต่ละคนที่มีความสามารถในการเรียนแตกต่างกัน
3. ความแปลกใหม่ของคอมพิวเตอร์จะช่วยสร้างความสนใจและความตั้งใจเรียนของผู้เรียนมากขึ้น
4. ความสมารถในการเก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถออกแบบบทเรียนและสามารถประเมินผู้เรียนได้อย่างรวดเร็ว
5. สามารถใส่ภาพ เสียง คำอธิบาย สีสันต่างๆ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจได้
6. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอน โดยช่วยให้การสอนมีคุณภาพสูงและคงตัว
7. ช่วยประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการเรียนการสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับปรุงเนื้อหาบทเรียนสามารถกระทำได้สะดวกและรวดเร็ว
8. สามารถเรียนได้โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่
9. ช่วยขยายขีดความสามารถของผู้เรียนในการดูแลผู้เรียนได้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสามารถบรรจุข้อมูลได้ง่ายและสะดวกในการนำไปใช้
ข้อเสีย
1. การออกแบบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนนั้นยังมีน้อย เมื่อเทียบกับการออกแบบโปรแกรมอื่นๆ ทำให้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีจำนวนและขอบเขตที่จำกัด
2. ต้องใช้เวลาในการออกแบบบทเรียนมาก อีกทั้งยังต้องใช้ทักษะ สติปัญญา และความรู้ในด้านต่างๆ ในการออกแบบบทเรียน
3. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนมีการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นจึงไม่ช่วยพัฒนากระบวนการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน
Computer assisted language learning
Computer assisted language learning
computer-Assisted Language Learning (CALL) is defined as “the search for and study of applications of the computer in language teaching and learning.” (Levy,1997: 1)
Aim to find ways for using computers for the purpose of teaching and learning the language.
Definition of CALL
CALL is represented by the use of computer technologies that promote educational learning, including
– word processing, presentation packages, guided drill and practice, tutor, simulation, problem solving, games, multimedia CD-ROM, and
– internet applications such as e-mail, chat and the World Wide Web (WWW) for language learning purposes
Terms associated with CALL
• Computer-Aided Language Learning (CALL)
• Computer-Assisted Language Instruction (CALI)
• Computer-Enhanced Language Learning (CELL)
• CALL and CALI refer to computer applications in language learning and teaching
• CELL implies using CALL in a self-access environment (Hoven, 1999).
The reasons why ELT teachers use CALL:
• Computers can do some of the work of the teacher and provide great assistance to the learner even without the presence of the teacher (Pennington and Steven, 1992).
• New technologies have seen computers become smaller, faster, and easier for the teacher to use (Evy, 1997).
• well-designed CALL software is readily available to the teacher
• Technologies allow computers to do multimedia applications, incorporating video, sound, and text, and this capacity allows the learner to interact with both the program and other learners. (Felix, 1998)
• The computer offers great flexibility for class scheduling and pacing of individual learning, choosing activities and content to suit individual learning styles. (Oxford and others, 1998)
• The computer can provide a meaning-focused, communicative learning environment, which serves the purposes of communicative language teaching.
Warschauer (1996) divides CALL into phases of development as follows:
• Behavioristic CALL
• Communicative CALL,
• Integrative CALL (Multimedia CDROM)
• Integrative CALL (internet)
USES OF CALL IN ENGLISH LANGUAGE TEACHING
§ Drill and practice
• a tool for saving time with the immediate feedback The learning principles behind Drill and Practice is the Behaviorism Learning Theory and the Audiolingual approach language to teaching.
• aim of Drill and Practice is to review the content / background knowledge, and to assist the learners to master separate language skills (such as reading, listening, etc.)
§ Drill and practice consists of three steps:
• Providing stimulus;
• Receiving active response from the learner; and
• Giving immediate feedback
§ There are several types of drill and practice activities (exercises)
• Paired Associate (Matching);
• Sentence Completion;
• Multiple Choice;
• Part Identification;
• True-False; and
• Short-Answer questions
§ Computer as tutor
• The role of the computer as tutor is to present to the learners the content of the lesson as text graphics, video, animation, or slides, including learning activities, drills and practice.
• The computer serves as a means for delivering instructional materials.
• The program consists of the following stages:
• Introduction stage (stating aims, background knowledge),
• Presentation of the content, exercises and/or testing;
• Giving the feedback
• Examples of CALL tutorial programs are:
• Grammar: Longman Grammar Software; Grammar Expert Plus; Tense Buster (Clarity Software); Grammar
Mastery (ALA); Grammar Rom (Addison Wesley Longman); Grammar 3D: Contextualized Practice for Learners
of English (Heinle & Heinle).
• Reading: Read It! Study Skills (Clarity Language Consultants) (EAP reading); RocketReader (1998) (a speed reading program); ReadFlex (Speed Reading); Reading for English (Athelstan) (Reading Comprehension); SEEN: Tutorials for Critical Reading (KenCD Software) (tutorials designed to develop analytical thinking and critical reading skills); Accelerated Reader (Advantage Learning Systems).
• Writing: Paragraph Punch (a writing tutor for effective paragraph); WriteExpress Easy Letters (effective business letters); Power Editing (an interactive tutorial on how to edit and revise sentences); Report Writer for Science and Engineering Reports (Clarity Language Consultants) (EFL/ESL report science and engineer writing).
• Speaking, Pronunciation & Listening: Learn to Speak (The Learning Company); English Pronunciation (1997-98) (Okanagan University College); Dragon, Naturally Speaking (A voice recognition program); See It, Hear It, Say It! (Courseware Publishing International); Accent Improvement (SpeakWare); Real English (Wiser Software).
• Integrated Skills / Courseware: Ellis (CALI), Dynamic English (DynEd); English Discoveries (Berlitz); English Language Development (Jostens); Rosetta Stone (Fairfield Language Technologies); Planet English (Unisearch Ltd and the University of New South Wales); Issues in English (Protea Software); Active English (Courseware Publishing International).
§ Computer used for simulation / problem solving
• Simulations and problem solving is used to foster analysis, critical thinking, discussion and writing activities.
• The program is designed to create language interaction through problematic situations, conditions or problems challenging for the learner to solve. Many simulation programs are problem solving games, which are entertaining and educational ("edutainment").
§ Games on computer
• The main principle behind computer gaming is that
“Learning is Fun.”
• aim is to create a pleasurable learning environment , motivate the language learner, provide entertainment to the learner
• CALL games and simulation games are similar in that both are designed to motivate students to learn through entertainment
– Simulation games always use simulations (real life situations) in the presentation of a game, while CALL games focus on
– providing fun, but challenging environment to the learner.
Computer as a tool for teachers and learners
• Word Processors: creating documents, handouts, exercises
• Spelling checkers
• Grammar checkers
• Concordancers
• Collaborative writing
• Reference software: encyclopedias, dictionaries, thesauruses, maps
• Authoring: Authorware (Macromedia), Adobe Captivate
Internet applications
• To access text, graphics, audio, video, and animation published on the internet, the teacher and learner need to use "Web browser" software, a computer based graphical program that allows users to search and explore information on the internet.
• The following are internet applications that ELT teachers can use for language teaching:
– Electronic mail (e-mail)
– World Wide Web (WWW): Texts, Pictures, Audio files,
Video files, Chat & voice chat, Desk-top teleconferencing
The Use of Multimedia in English Teaching
The Use of Multimedia in English Teaching
What is Multimedia?
Multimedia: the use of computers to present text, graphics, video, animation, and sound in an integrated way.
Components of Multimedia
Text. It is fundamental element in all multimedia applications. It conveys most information (Vanghan, 2004)
Graphics. It refers to images and pictures, such as chart, diagram, and photograph, which contain no movement.
Animation. Animation is the rapid display of sequence of images of 2-D or 3-D artwork or model positions in order to create an illusion of movement.
Sound. It is speech, music, or any other sound that is stored and produced by computers. It has more advantages than tape recorder.
Video. It is the visible part of a television transmission and broadcasts visual images of stationary or moving objects.
The Setting of Multimedia Classroom
An illustration of a typical one-multimedia-PC classroom setting is vital and necessary.
1. MPC-multimedia personal computer
2. VCD/DVD player-video compound disk/digital video disk;
3. Amplifier and Hi-Fi acoustic system
4. Overhead/slide projector
5. Screen/curtain
6. Projecting apparatus
7. The internet access
8. Cassette tape recorder
The Necessity of Multimedia in English Teaching
The Necessity of Development of Modern Educational Technology
The development of modern educational technology not only promotes the development of educational methods and means, but also promotes the development of educational thinking and model.
The Needs of Quality Education
Multimedia English language teaching can enable students to be involved in a variety of sensory organ in the learning process and stimulate the students in the corresponding cortical function area.
The Needs of Students’ Cognitive Mental
Under the present circumstances, only the multimedia teaching system can fully mobilize the students’ audio-visual and other sensory organs, and thus get the best of the cognitive effect.
The Multimedia Teaching
Advantages
Arousing the students’ interest. Multi-media teaching can not only greatly stimulate students’ interest in learning, but also make teaching becomes vivid and lively.
Improving students’ self-learning ability. The most important thing is teaching students how to learn and making students change from “want me to study” to “I want to learn” in thinking, from passive learning to active learning.
Improving students’ innovative ability. In teaching, the teachers should pay attention to tap the imagination of students. To use multimedia can achieve the desired results and find unlimited resources in textbooks.
Cultivating students’ communication skills. Through multi-media teaching, we can create real-life scenes in the classroom. It is not only to shorten the distance between teaching and practice and give students the opportunity to use English to communicate, but also to satisfy their curiosity in psychology and stimulate the expression of desire.
Increasing classroom capacity. Multi-media teaching rhythm is adapted to the needs of modernization to meet the student’s desire for knowledge. It can expand text-related materials. The use of multimedia technologies can make students notice a clear knowledge and a new expansion by huge information capacity which shows by all kinds of media.
Problems: Teaching English with multi-media has many problems.
Confusion. Some English classes are totally dependent on multi-media, ignoring the role of teachers.
Performance on behalf of the lead. The teaching process is that teachers arouse students’ enthusiasm and guide students to active learning. Multimedia just only provides a supporting role in the process.
Lack of special skills. The unskilled operation on computer would affect the instruction flow, which in turn would de-motive students if it happened frequently in class.
Over-use of multimedia. Because of the teacher’s lack of enthusiasm and creation and his or her dependence on the multimedia technology, the teachers act as sole information-giver to the students.
Lack of interaction between teachers and students. The teachers in the multimedia classroom are busy with machine operation—computer, DVD player, overhead projector, courseware—which might even get the proficient teachers busy, let alone those unskilled.
Strategies for Using Multimedia
Combining Modern Teaching Methods with Traditional Teaching Methods
Teachers should combine their Traditional Teaching Methods with modern teaching methods, which not only raise classroom teaching quality and efficiency, but also improve teaching and learning environment between teachers and students.
Viewing Multimedia as the Assistance to Teaching
When we use computers in the teaching, we should understand they can only assist but cannot take place of all the other teaching methods.
Building the Ideal Relationship between Teachers and Students
It is wrong for some people to hold the view that machine can take place of human beings. It is more challenging role for teachers now that the expectations are more complex.
Strengthening Teacher Training
Teachers should be expert in one thing and good at many. They should know well about modern educational theories and techniques.
The Principles of Multimedia-Assisted Teaching
1. Scientific principles. Namely, courseware design cannot appear any errors;
2. Subsidiary principle. We must always adhere to: Although multi-media teaching has many advantages, it is only a supplementary means, and does not substitute for the role of people;
3. Interactivity principle. More interactivity between teachers and students, students and multimedia, more effective results we will have;
4. Combination principle. Combine the advantages of modern teaching and the traditional teaching organically.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)